ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 1
"คุณหนูสามแห่งจวนจงจิ้งโหวจิตใจดั่งอสรพิษ วางแผนเลือดเย็น แม้งดงามหยาดเยิ้มเกินผู้ใดในเมืองหลวง ทว่ากลับไม่มีผู้ใดกล้ามาสู่ขอ ในวันหนึ่ง ฮ่องเต้พระราชทานสมรส ให้นางแต่งเป็นชายาแก่จิ้นอ๋องผู้ซึ่งเล่าลือกันว่าโหดเหี้ยมอำมหิตแต่กุมอำนาจล้นฟ้าไว้ในมือ
ซ่งหมิงหลาน : ...ทำไมข้าถึงขายออกล่ะ?
จิ้นอ๋อง : อย่าปรักปรำว่าข้าแอบกำจัดศัตรูหัวใจทิ้ง เพราะเพียบพร้อมมั่งมีทุกอย่าง จึงใช้ทั้งอิทธิพลและอำนาจครอบครองหัวใจนาง นับว่าต้นร้ายปลายดีจริงๆ!
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 2
"ไม่ว่านิสัยของซ่งหมิงหลานจะโหดเหี้ยมเลือดเย็นมากเพียงไร ทว่าใบหน้ากลับงดงามไร้ที่ติ ต่อให้องค์หญิงใหญ่ชางผิงเป็นเชื้อพระวงศ์ได้พบเจอหญิงงามในเมืองหลวงมานับไม่ถ้วน ยังต้องยอมรับว่ารูปโฉมของซ่งหมิงหลานคือหญิงงามไร้ผู้เปรียบเปรยที่พบเจอได้ยากตลอดชั่วชีวิตนี้ ใบหน้างดงามทว่าแผนการเลือดเย็น นิสัยเปลี่ยนสีหน้าได้ทันควัน ทำให้เข้าตาองค์หญิงใหญ่ชางผิง นางยิ้มพลางกวักมือเรียกซ่งหมิงหลานให้มาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวเอง “หญิงงาม จิตใจยิ่งงาม ข้าชื่นชอบแม่นางที่เปิดเผยตรงไปตรงมาอย่างเจ้านัก”
กล้าทำร้ายอนุและบุตรรักของฮวายเซียงป๋อ ยังจะไม่ใช่แม่นางที่ตรงไปตรงมาอีกหรือ?
ริมฝีปากแย้มยิ้มบนใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ชางผิงยิ่งอ่อนโยน
ซ่งหมิงหลานพบผู้สูงศักดิ์ครั้งแรก นางหลุบสายตาลง คารวะให้องค์หญิงใหญ่ชางผิง
“ท่านแม่ใจคอกว้างขวาง เจ้าก็ทำเหมือนอยู่ในบ้านญาติของตัวเองเถอะ อย่าได้มากพิธีอย่างนั้นเลย” หวังเจาเห็นนางทำความเคารพก็รีบร้อนเอ่ยขึ้น พูดมาถึงตรงนี้ยิ่งรู้สึกไม่เหมาะสม จึงยิ้มพร้อมทั้งพูดกลบเกลื่อนไปว่า “เจ้าเป็นคนที่ญาติผู้พี่พามา พวกเราล้วนเป็นคนสนิทกัน”"
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 3
"เมื่อเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังมาจากประตูใหญ่ของเรือนรับรองที่เปิดออก เรือนร่างงดงามของซ่งหมิงหลานยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ หลี่ซื่อยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
นัยน์ตาทั้งคู่ของนางดูเหมือนลอบสังเกตซ่งหมิงหลาน เห็นเสื้อผ้าของนางเรียบร้อยไม่ยับยุ่งเหยิง ทั้งสีหน้ายังไม่มีท่าทีกระวนกระวายหรือดูคล้ายคนใจสลาย ท่าทางนิ่งสงบอย่างนั้น หากไม่ใช่หญิงแก่ที่อยู่ข้างๆ แอบพยักหน้าให้นางเบาๆ ให้ความมั่นใจแก่นางว่าหยางกั๋วกงเข้าไปในเรือนรับรองแล้ว นางคงคิดว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน
เพียงแต่ซ่งหมิงหลานมีท่าทางสงบอย่างนั้น ยิ่งทำให้ภายในใจหลี่ซื่อคิดอย่างคนเจ้าเล่ห์ เข้าใจว่าซ่งหมิงหลานแม้ว่าพบเจอเรื่องลำบาก ทว่ากลัวว่าจะถูกเปิดโปงจึงได้แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว "
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 4
"นางรู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นกลางหน้าผาก ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มอยู่ในระยะประชิด เขาพูดอย่างคลุมเครือว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ไว้เป็นหน้าที่ข้า” จิ้นอ๋องถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้ง ได้แต่กอดนางไว้ไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆอีก
ทั่วทั้งร่างของเขาแข็งทื่อด้วยไฟร้อนที่แผดเผา ทั้งยังไม่อาจตัดใจผลักร่างบอบบางในอ้อมกอดของตัวเองออก
“เจ้าคงต้องการชีวิตของข้าจริงๆ” กลิ่นหอมจากเรือนกายของหญิงสาวปลิวฟุ้งอยู่ในบรรยากาศรอบตัว จิ้นอ๋องได้แต่พูดออกมาเบาๆ
“ท่านน่ะสิต้องการชีวิตข้า!” ซ่งหมิงหลานไม่เคยคิดมาก่อน ว่าระหว่างตัวเองและจิ้นอ๋องจะมีบทสรุปอย่างนี้
นางออกจากอารามเก่าแก่เดินทางกลับเมืองหลวง เพื่อเข้าไปอยู่ในจวนจงจิ้งโหวที่ไร้ยางอาย แท้จริงแล้วนางเดิมพันด้วยชีวิต นางคิดเอาไว้ดีแล้ว จะขอไปตายเอาดาบหน้า ทว่าตอนนี้ นางกลับมีคนรักที่อยากจะร่วมชีวิตไปกับเขาจริงๆ
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 5
"ท่ามกลางแสงสว่างขมุกขมัวของแสงจันทร์นวลตา ใบหน้าหล่อเหล่าของชายหนุ่มกลับเคร่งขรึมขึ้นมา ต่อให้หญิงสาวยังคงเปลือยเปล่าไร้เสื้อฟ้า ทว่าตอนนี้นัยน์ตาของชายหนุ่มกลับไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย เขากระทั่งไม่รู้สึกขัดเขิน และไม่มีความกังวลว่าจะถูกผู้อื่นมาพบเข้าแล้ว
“อย่าใส่ร้ายนาง”
“ญาติผู้พี่ ท่านดูตัวเองสิ” แผ่นหลังของซ่งหมิงเยว่ชนเข้ากับภูเขาเทียมจนเจ็บปวดไปหมด ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยแรงอารมณ์เมื่อไม่สามารถโยนไฟไปเผาร่างซ่งหมิงหลานได้! เพราะนังปีศาจนั่น ฟางจิ้งซูถึงกับเย็นชาไร้ความรู้สึกต่อนาง จะให้นางทนได้อย่างไร? พูดไปแล้ว สิ่งที่นางทำเพื่อฟางจิ้งซูตลอดหลายปีมานี้ น้อยกว่าซ่งหมิงหลานหรืออย่างไร?
“ท่านทำทุกอย่างเพื่อนาง แล้วนางเล่า? นางมักใหญ่ใฝ่สูง ญาติผู้พี่ มีเพียงข้า มีเพียงข้าที่อยากแต่งให้ท่านด้วยความจริงใจ” นางรวบเสื้อผ้าเข้าหาตัวเองโดยสัญชาตญาณ เห็นฟางจิ้งซูเอาแต่มองจ้องตัวเอง ก็รีบยืดตัวขึ้นมาจากภูเขาเทียม จากนั้นจึงเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเขา
“ข้าชอบญาติผู้พี่ที่สุด บนโลกใบนี้ มีเพียงข้าที่ชื่นชอบญาติผู้พี่อย่างนี้”
“เจ้าชอบข้า ทำไมข้าต้องชอบเจ้ากลับ? กระทั่งความบริสุทธิ์ของพี่สาวตัวเองยังต้องการทำลาย อีกทั้งยังสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างข้าและน้องหญิงสาม ทำไมข้าจะต้องชอบสตรีอย่างเจ้า?”
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 6
"หากพูดว่าให้จิ้นอ๋องไปผูกมิตรกับทหารหาญที่ชายแดน เช่นนั้นกานหยวนตี้ฮ่องเต้คงไม่ยอมปล่อยจิ้นอ๋องออกจากเมืองหลวงแน่ จ้าวอ๋องเองก็เป็นคนมีความสามารถ น่ายินดียิ่ง เขาซื้อขุนนางคนหนึ่งมาเป็นพวก ให้ขุนนางผู้นั้นเพ็ดทูลเรื่องไม่ดีของจ้าวอ๋องต่อหน้ากานหยวนตี้ฮ่องเต้
ขุนนางผู้นั้นฝีปากไม่เลวทีเดียว เขาพูดว่าหากจิ้นอ๋องตายในสนามรบ เช่นนั้นจ้าวอ๋องคงไร้ความสามารถ หากจิ้นอ๋องออกจากเมืองหลวง จ้าวอ๋องก็เท่ากับเดียวดายไร้คนสนับสนุน ถึงตอนนั้นไม่ใช่โอกาสดีที่ฝ่าบาทจะกำจัดจ้าวอ๋องหรือ? เพราะคำพูดเหล่านั้น ในที่สุดกานหยวนตี้ฮ่องเต้จึงยินยอมอนุญาต
“ขอบพระทัยเสด็จพี่” จิ้นอ๋องย่อมไม่ใช่คนไม่รู้ชั่วดี นอกจากเรื่องซ่งหมิงหลานแล้ว เรื่องอื่นเขาล้วนสามารถปล่อยผ่านอย่างสบายใจ
“ดีที่เจ้ายังรู้ชั่วดี” จ้าวอ๋องประชดขึ้นมา จากนั้นจึงตัดสินใจเอาใจซ่งหมิงหลานสักหน่อย หลายวันหลังจากนี้นางจะได้ช่วยดูแลน้องชายผู้โง่เขลาของเขา เขายิ้มพลางพูดอย่างเอาใจใส่ว่า “หมิงหลานของเจ้าเป็นสตรีบอบบาง การเดินทางยาวไกลจะลำบากหรือไม่? ยิ่งไปกว่านั้นชายแดนยังมีไฟสงคราม มีดดาบย่อมไร้ตา”
ยอดพธูแห่งยุค เล่ม 7
"หลังจากนางถูกกานหยวนตี้ฮ่องเต้ลอบทำร้าย ทั้งยังรู้ว่าจิ้นอ๋องไม่ได้ถือสานางจริง ๆ ซ่งหมิงหลานก็พอใจมากแล้ว นางรู้สึกเพียงว่าตัวเองเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า ความสวยงามที่สุดของโลกใบนี้ล้วนถูกนางครอบครองไว้หมดแล้ว การถูกลอบทำร้ายเพื่อทำให้ผู้อื่นชิงชังนาง ในหัวใจของคุณหนูซ่งสามไม่นับว่าเป็นอะไรแล้ว
“เสด็จแม่เล่าให้เจ้าฟังหมดแล้ว?” ซ่งหมิงหลานอึดอัดใจอยู่หลายวันพยายามไม่บอกจิ้นอ๋องเรื่องที่ฮองเฮาพูดกับนาง แต่จิ้นอ๋องกลับเฉลียวฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แปลกไป ทุก ๆ ครั้งที่เขาเข้าวัง ซ่งหมิงหลานล้วนปฏิบัติกับเขาอย่างนุ่มนวล
นางดูเหมือนรักเขามากกว่าแต่ก่อน ทั้งยังสนิทชิดใกล้อย่างอ่อนโยน นี่ไม่ใช่เพราะคำตอบที่จิ้นอ๋องเลือกในวันนั้นเพียงอย่างเดียว ยังเป็นเพราะ...ซ่งหมิงหลานรู้แล้วว่าหลายปีมานี้จิ้นอ๋องถูกกานหยวนตี้ฮ่องเต้หมางเมินเย็นชามากแค่ไหน เขาเองก็พอใจมากเหมือนกัน รู้สึกว่าแสงอาทิตย์ที่สาดส่องบนเรือนร่างให้ความอบอุ่นเหลือเกิน ทั้งงดงามทั้งอ่อนโยน ความขมพร่าและมืดหม่นตลอดหลายปีมานี้ ล้วนค่อย ๆ สลายหายไป เหลือเพียงสตรีงามในอ้อมกอด และเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขาไม่อาจเสียไป